ผมว่าเกษตรกรรู้กันดีอยู่แล้วว่า ขี้ค้างคาวมีประโยชน์ต่อต้นไม้มากมายขนาดไหน
หากจะจัดลำดับปุ๋ยอินทรีย์ ขี้ค้างคาวนับเป็นปุ๋ยคอกชั้นดีติดอันดับ 1 แน่นอน
เพราะในขี้ค้างคาวประกอบด้วยธาตุอาหารสูงมาก เมื่อเทียบกับปุ๋ยคอกชนิดอื่น
และโดยเฉพาะขี้คาวคาวหนู หรือค้างคาวกินแมลง เพราะในเนื้อแมลงมีสารอาหารมากกว่า จึงทำให้ธาตุอาหารในขี้ค้างคาวสูงยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามขี้ค้างคาวที่จะมีคุณภาพโดดเด่นมาก ต้องเป็นขี้ค้างคาวเก่า ที่มีการหมักหมมก้นถ้ำมานานทั้งขี้ เยี่ยว และซากค้างคาว จนเกิดเป็นผลึกฟอตฟอรัส
ส่วนขี้ค้างคาวใหม่ ส่วนมากเขาเอาไว้ทำดินปืนกัน เพราะมีกำมะถันสูง
สำหรับขี้ค้างคาวที่เป็นส่วนประกอบหลักในการทำปุ๋ยมูลค้างค้าวเจริญอินทรีย์ภัณฑ์ 633 นี้ เราใช้ขี้ค้างคาวเก่าจากถ้ำเขาหน่อเขาแก้ว อำเภอบรรพตพิสัย จัังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นถ้ำค้างคาวหนู ชนิดกินแมลง โดยเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยามาตรวจพบว่าเป้นขี้ค้างคาวเก่าหนักหมมมามากกว่า 2,000 ปีแล้ว จนเกิดเป็นผลึกฟอสฟอรัส ทำให้เป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก
ปล. ไม่ต้องห่วงเรื่องติดเชื้อไวรัสโคโนน่า หรือเชื้อไวรัสอื่นๆ จากค้างคาวหรอกครับ
เพราะปุ๋ย 633 นี้ มีกรรมวิธปั้นปุ๋ยที่ใช้ความร้อน หลายร้อยกว่าองศาเซลเซียสเลยทีเดียว
แบบว่าหากมีเชื้อไวรัสจริงๆ มันก็จะถูกเผาผีชนิดไม่เหลือแม้แต่ซากเลยหละครับ