ต้นไม้กินอาหารอย่างไร ทำไมถึงต้องใช้ปุ๋ยน้ำให้ทางใบด้วย

โดยปกติต้นไม้จะกินอาหารอยู่ 2 ทาง คือ ทางราก และทางใบ 

สำหรับการกินอาหารทางรากนั้น ต้นไม้จะใช้วิธีการดึงสารอาหารมาทางท่อไซเลม พร้อมกับน้ำขึ้นมาโดยใช้แรงปั๊ม ส่วนท่อโฟเอมจะดึงเอาอาหารขึ้นมา ใช้แรงดันประมาณ 30 บาร์ ดึงขึ้นมา (ดึงขึ้นต้านแรงโน้มถ่วงประมาณตึก 30 ชั้น)

ซึ่งการดึงน้ำ และอาหารขึ้นมานี้ ต้นไม้ใช้การปั๊มด้วยการเปิดปากใบ ซึ่งปากใบจะอยู่บริเวณข้างล่างใบ ขยายออกเมื่อมีความชื้นสัมพัทธ์สูง ต้นไม้จึงมีแรงดึงน้ำ อาหาร เอามาเก็บไว้ที่ใบแล้วปล่อยน้ำออกไป
จากข้อนี้ทำให้เรารู้ว่า ต้นไม้ต้องการน้ำเฉพาะช่วงเช้าๆ ที่อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์สูง เพื่อประกอบการดึงธาตุอาหารนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าการให้อาหารทางราก ต้นไม้จะได้อาหารมาก แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
1. ดินต้องไม่แน่นเกินไป รากต้องให้ความโปร่งที่การวิ่งหาอาหารในดิน ซึ่งข้อนี้เราแก้ไขได้ด้วยอินทรีย์วัตถุได้ หรือต้องปลูกในดินที่เหมาะกับพันธุ์ต้นไม้นั้นๆ
2. ค่าความเป็นกรดด่างในดินต้องอยู่ในช่วง 5.5 – 7 คือ เป็นกลาง – ด่างนิดๆ แต่ถ้าดินมีค่าเป็นกรด ดินเปรี้ยว รากก็จะดูดซึมอาหารได้ไม่ดี อาจแก้ได้ด้วยปูนขาว 3 ก.ก./ไร่
3. ความชื้นต้องดี แต่ไม่ถึงกันแฉะ เราอาจจะควบคุมไม่ให้แล้งได้ แต่เราไม่สามารถควบคุมความแฉะได้ ถ้าเกิดฝนตก
4. ในดินต้องไม่มีเชื้อโรค เชื้อโรคย่อมมาพร้อมกับค่าดินที่เป็นกรด ซึ่งเชื้อโรคนี้จะไปทำลายราก ทำให้รากกินอาหารได้ไม่ดี
5. รากต้องแข็งแรง และเหมาะสมกับดิน เพราะต้นไม้แต่ละพันธุ์ก็ชอบดินที่แตกต่างกันไป ถ้าเราปลูกต้นไม้ไม่เหมาะกับสภาพดิน ก็ทำให้ศักยภาพในการดูดซึมของรากต่ำลง
6. อุณหภูมิ ไม่ร้อนจัด ไม่หนาวเกิน ต้นไม้บางต้นมีภาวะการเปลี่ยนแปลงสูงมากเมื่ออากาศเปลี่ยน เช่น ข้าว ไม่ชอบหน้าหนาว ทำให้รากไม่ค่อยทำงานกินปุ๋ยได้น้อยลงทำให้ใบเหลือง
7. ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส โบลิบินัม มักถูกดูดซึมจากรากมาสู่ใบได้น้อย
8. ต้องมีน้ำและความชื้นเป็นตัวนำพา ถ้าแล้งขึ้นมา ต้นไม้จะดึงไม่ขึ้น

เมื่อถึงเวลาสัก 15.00 น. ต้นไม้จะสังเคราะห์แสง ปรุงอาหารที่เก็บไว้เป็นกรดอะมิโน 18 ชนิด เอาไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของต้นไม้ พอกินอิ่มแล้วก็ง่วงและนอนในเวลากลางคืนนั่นเอง

ถ้าเราไม่สามารถควบคุมมาตรฐานของเงื่อนไขทั้ง 7 ข้อนี้ได้ แต่ไม่อยากให้ต้นไม้ขาดธาตุอาหาร
นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมใส่ปุ๋ยเม็ดทางดินแล้ว จึงจำเป็นต้องฉีดพ่นปุ๋ยน้ำให้ทางใบด้วย
การให้ปุ๋ยน้ำให้ทางใบ เป็นการโยนอาหารไปเก็บไว้ที่ใบในทันที เหมือนการย่นย่อระยะทางและความลำบากให้ต้นไม้ได้มีอาหารกินได้ทันทีโดยไม่ต้องออกแรง จึงทำให้ต้นไม้ฟื้นตัว สดชื่นในทันที ที่สำคัญคือ สามารถผ่านช่วงฤดูแล้งไปได้เพราะไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมากมายในการดึงสารอาหารขึ้นมา

และปุ๋ยน้ำที่เขาผลิตขึ้นมาเพื่อฉีดพ่นให้ทางใบ เขาจะทำให้โมเลกุลปุ๋ยแบบเล็กละเอีดยมาก และพัฒนาโดยเอาสารคีเลต มาใส่ในปุ๋ย ให้ปุ๋ยน้ำไม่มีประจุบวกหรือลบ ปุ๋ยน้ำจึงดูดซึมเข้าทางใบได้ดีเลยทีเดียว
เมื่อดูดซึมเข้าใบต้นไม้ก็จะสังเคราะห์แสงพัฒนาเป็นแป้ง เปลี่ยนเป็นกรดอะมิโน นำไปใช้สร้างความเจริญเติบโตของต้นไม้ต่อไป
ปุ๋ยจะถูกดูดเก็บเป็นแป้งและสังเคราะห์แสงเป็นกรดอะมิโนออกมาใช้บำรุงร่างกาย ต้นไม้จึงโตได้ด้วยกรดอะมิโน และเจริญเติบโตตลอด 24 ชั่วโมง แต่การสร้างกรดอะมิโนจะสร้างได้เฉพาะช่วงกลางวัน
ดังนั้นปัจจุบันจึงนวัตกรรมของปุ๋ยน้ำก็มีการผสมผสานกับกรดอะมิโนด้วย ฉีดพ่นกินนำไปใช้ได้เลย
ดังนั้นปุ๋ยน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องการทำให้ต้นไม้ออกดอกผลนอกฤดูกาล