ถ้าใส่ปุ๋ยสูตรสูงๆ แล้วจะได้ผลผลิตดีขึ้นจริงไหม

เราอาจจะรู้สึกว่า 1 + 1 ต้องเท่ากับ 2 สิ
ฉะนั้นการใส่ปุ๋ยสูตรสูงๆ ยิ่งสูงมันก็ต้องได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้นสิ

แต่ในการทดลองที่ผมเคยทำๆ มา มันไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย
ไม่ว่าผมจะใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือจะ 15-15-15 หรือจะ 6-3-3
กลับได้ผลผลิตที่ไม่แตกต่างกันเลย
ทำไมมันเป็นเช่นนั้นหละ
ผมเลยไปศึกษาข้อมูลก็พบเรื่องราวที่ถึงบางอ้อที่เราไม่เคยจะนึกถึงมันแม้จะเป้นเรื่องที่น่าจะดูเป็นเรื่องทั่วๆ ไป นั่นคือ
ต้นไม้ เขามีข้อจำกัดในการกิน หรือเพดานขั้นสูงนั่นเอง
เขาก็เหมือนกับเรานี่แหละที่แม้จะหิวจัดหิวโซแค่ไหนก็ไม่อาจจะกินบุฟเฟ่พิซซ่า ข้าวปั้นปลาดิบ หรือเบอร์เกอร์ สัก 100 ชิ้นในมื้อเดียวได้ นี่แหละกุญแจสำคัญที่ทำให้แม้ผมจะใส่ปุ๋ย
สูตร 13-13-21 หรือจะ 15-15-15 หรือจะ 6-3-3 กลับก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน

ฉะนั้นการจะกระตุ้นให้ได้ผลผลิตมากๆ ด้วยการใช้ปุ๋ยสูตรสูงปรี๊ด คงไม่ใช่ทางออก
ผมเคยเจอบทวิจัยที่เข้าเอาต้นไม้ ผลไม้มาทดลองรีดส่วนประกอบออก ทำให้เรารู้ว่า ในต้นไม้นั้นประกอบไปด้วย จะมีสารอาหารดังนี้
– มีกลุ่มคาร์บอน (C) = 45%
– มีกลุ่มออกซิเจน (O) 45%
– มีไฮโดรเจน (H) 6%
รวมทั้งสิ้น 96% ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ต้นไม้หาได้เองตามธรรมชาติ เช่น น้ำ (H2O) อากาศ แสงแดด (สังเคราะห์แสง) เป็นต้น

ส่วนอีก 4% คือ ธาตุอาหารหลัก รอง เสริม 14 ชนิด มาจากปุ๋ย หรือดินตามธรรมชาติ โดยแยกเป็นธาตุอาหารดังนี้

โดยธาตุอาหารหลักจะทำงานได้ดีเต็มที่ มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพแบบทวีคูณ ต้องทำงานร่วกับธาตุอาหารรอง + เสริม เป็นส่วนผสมด้วย แม้จะต้องการน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น
– ไนโตรเจน ทำงานได้ดีต้องมี แคลเซียม ประกอบกับ เหล็ก และสังกะสี เป็นสารกระตุ้น และมี ทองแดง และนิกเกิล ช่วยควบคุม
– ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำงานได้ดีต้องมี แคลเซียม แม็กนีเซียม ประกอบกับ เหล็ก สังกะสี แมงกานีส และโบรอน เป็นสารกระตุ้นเบ่งลูก เก็บอาหาร ขยายโครสร้างผลผลิต และมี คลอรีน เพิ่มคุณภาพผลผลิต
– ซัลเฟอร์ (กำมะถัน)และโมลิบดินัม เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ต้นไม้ไม่ป่วยง่าย แมลงไม่ค่อยรบกวน

ดังนั้นจากข้อนี้ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่า ต้นไม้ไม่ได้อยากกินอาหารเยอะๆ แต่ต้นไม้ต้องการอาหารที่ครบ 14 ชนิด อย่างกลมกล่อมพอดีกัน
เสมือนมนุษย์ที่จำเป็นต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ใช่ต้องการการน้ำตาลครึ่งโล น้ำปลาครึ่งขวด น้ำส้มสาชูอีกครึ่งขวด และไม่อาจจะกินข้าว 10 โล ให้หมดได้ภายในมื้อเดียว

ที่สำคัญกว่านั้น ปุ๋ยย่อมมีเวลาในการปลดปล่อยธาตุอาหารของมัน ถ้าปุ๋ยที่มีอายุน้อย มันก็ระเหยเร็วเกินไปที่ต้นไม้จะกินได้ทัน เสมือนเรากินกินข้าวกองเท่าภูเขาได้ไม่หมด จะเก็บไว้กินในมื้อต่อไป ก็เก็บได้ไม่นานข้าวนั้นก็จะบูดกินไม่ได้ ทิ้งอย่างน่าเสียดายดังนั้นการจะใส่ปุ๋ยเราจะเน้นใส่เยอะๆ แล้วจะเชื่อว่าผลผลิตต้องดีขึ้นนั้น ไม่ได้ 
ถ้าเราอยากเพิ่มผลผลิต เราต้องใส่ธาตุอาหารให้ครบด้วย

ถ้าใส่สูตรมากๆ แล้วจะได้ผลผลิตเยอะจริง
แล้วเหตุใดใส่ปุ๋ยสูตรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
แต่กลับได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิม??