Breaking News
Home » การเกษตรอินทรีย์ » เผาไร่นา ก่อเกิดปัญหามากกับการปลูกรุ่นต่อไป

เผาไร่นา ก่อเกิดปัญหามากกับการปลูกรุ่นต่อไป

การเผาที่ เผานา เผาไร่ ก่อนหรือหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต จริงๆ มีโทษมากมายในวงกว้าง แต่ถ้าผมจะเล่าถึงปัญหาเรื่องมลพิษ อาจจะไม่ค่อยน่าสนใจเท่ากับการที่ผลจะบอกว่า

“ยิ่งเผา ยิ่งจน เพราะมันทำให้ผลผลิตในครั้งต่อไปน้อยกว่าเดิม”

ฉะนั้นถ้าอยากจะทำการเกษตรอย่างยั่ง มีรายได้มากขึ้น ต้องหยุดเผาแปลงที่แปลงนา

การเผาที่เผานา แม้จะทำให้การไถ่ที่ทำแปลงมันง่ายขึ้น เพราะไม่มีซังข้าวขัดขวาง หรือในส่วนอ้อย การเผาก่อนเก็บก็จะทำให้ตัดง่ายขึ้นเพราะไม่มีใบอ้อยขวาง เก็บง่าย ไม่หนักมาก
เอาจริงๆ ข้อดีพวกนี้คนที่ได้ประโยชน์คือลูกจ้างนะ ไม่ใช่กิจการของเจ้าของที่เลย ลูกจ้างทำงานสะดวก
แต่นายจ้างเจ้าของที่จะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญดังนี้ในไร่อ้อยที่ถูกเผา อ้อยที่เก็บจะมีระดับน้ำตาลลดลงแบบ 50 – 70 % เลย อุตส่าห์ดูแลเป็นอย่างดี แต่เวลาเก็บเกี่ยวกลับเก็บได้แค่กากอ้อย ก็เพราะความร้อนรุนแรงของไฟทำให้อ้อยแห้ง น้ำระเหย น้ำหนักลด และน้ำตาลส่วนใหญ่ถูกทำลายหนักมาก เอาจริงๆ ถ้าจะบอกว่าใบอ้อยมาก ตัดยาก ผมมีวิธีแก้ทำให้ใบไม่รก เวลาเก็บเกี่ยวก็ทำได้ง่าย คือ เวลาอ้อย

การเผาที่เผานา แม้จะทำให้การไถ่ที่ทำแปลงมันง่ายขึ้น เพราะไม่มีซังข้าวขัดขวาง หรือในส่วนอ้อย การเผาก่อนเก็บก็จะทำให้ตัดง่ายขึ้นเพราะไม่มีใบอ้อยขวาง เก็บง่าย ไม่หนักมาก
เอาจริงๆ ข้อดีพวกนี้คนที่ได้ประโยชน์คือลูกจ้างนะ ไม่ใช่กิจการของเจ้าของที่เลย ลูกจ้างทำงานสะดวก
แต่นายจ้างเจ้าของที่จะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญดังนี้
– ในไร่อ้อยที่ถูกเผา อ้อยที่เก็บจะมีระดับน้ำตาลลดลงแบบ 50 – 70 % เลย อุตส่าห์ดูแลเป็นอย่างดี แต่เวลาเก็บเกี่ยวกลับเก็บได้แค่กากอ้อย ก็เพราะความร้อนรุนแรงของไฟทำให้อ้อยแห้ง น้ำระเหย น้ำหนักลด และน้ำตาลส่วนใหญ่ถูกทำลายหนักมาก เอาจริงๆ ถ้าจะบอกว่าใบอ้อยมาก ตัดยาก ผมมีวิธีแก้ทำให้ใบไม่รก เวลาเก็บเกี่ยวก็ทำได้ง่าย คือ เวลาอ้อยปลูกอ้อย ให้ปลูกเป็นแถว และทำเป็นกอ และเมื่ออ้อยอายุ 3 เดือนให้สางใบทิ้ง จะทำให้ใบเตี้ยมีน้อย แถมยังทำให้่ต้นอ้อยโตไว ยืดตัวได้ดีอีกด้วย
– ในแปลงข้าว แม้จะมีการเผาหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อรุ่นต่อไปเหมือนกัน
– การเผาที่ดิน ส่งผลให้ดินเกิดความร้อนสูงมาก เมื่อดินร้อน ก็จะควบแข็งเหมือนเครื่องปั้นดินเผา ดินจะเป็นอิฐ อุ้มน้ำแและปุ๋ยได้น้อยลงมากๆ เชื้อจุลินทีย์ที่มีประโยชน์ที่ช่วยย่อยก็ตายหมด อินทรีย์วัตถุที่อยู่ในดินก็ถูกทำลาย ทำให้ดินเสีย แห้ง แข็ง ส่งผลให้ไม่ค่อยอุ้มน้ำ ดินแข็งรากเดินยาก สารอาหารก็ลดลงจนแทบไม่เหลือดี ต้นไม้รุ่นต่อไปจึงหาอาหารได้น้อยลง ทำให้การเพาะปลูกในรุ่นต่อไปยากลำบากขึ้น เสียเงินปรับดินใหม่ ต้นไม้โตช้า โตไม่สุด ผลผลิตจึงได้ไม่ดี แม้จะอัดปุ๋ยบำรุงมากมายก็ปลุกขึ้นยากมาก แถมยังทำให้วัชพืชบางชนิดเกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม เกษตรกรจึงต้องเสียเงิน เสียเวลาตามแก้ไม่รู้จบ

ในขณะที่เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่แบบไม่เผาที่ดิน ใช้วิธีการไถกลบตอซัง ปลูกพืชหมุนเวียน และไถกลบปุ๋ยพืชสด กลับไม่เคยมีปัญหาโรค แมลง หรือหญ้าวัชพืช

หากเกษตรกรรวบรวมฟางซากพืชแล้วเอามาทำปุ๋ยในนา ทำแบบง่ายๆ ไม่ต้องพลิกกลับกอง เพียง 2 เดือน ดินของเราก็จะมีอินทรีย์วัตถุ จุลธาตุ ธาตุอาหารรองธาตุอาหารหลัก เพิ่มขึ้น กลับคืนหมุนเวียนลงสู่ดินตามธรรมชาติ ให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดิน เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกรุ่นต่อไป ดินก็ดีขึ้น ผลผลิตก็เพิ่มขึ้น

ฉะนั้นถ้าอยากจะทำการเกษตรอย่างยั่ง มีรายได้มากขึ้น ต้องหยุดเผาแปลงที่แปลงนา

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*